AI Learning Ecosystem

1. ✈️ Travel Mode (นักเดินทาง & เอาตัวรอด)

เป้าหมาย: สื่อสารรู้เรื่อง แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ มั่นใจในต่างแดน

• 🛫 หมวดการเดินทาง (Logistics & Transit)

  • ที่สนามบิน: เช็กอินและโหลดกระเป๋า / ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) / ศุลกากรและการสำแดงของ / การแจ้งกระเป๋าหาย / การฟังประกาศ Gate Change

  • บนเครื่องบิน: ขออาหาร-เครื่องดื่ม / แจ้งอาการป่วย / ขอผ้าห่ม-หูฟัง / คุยกับผู้โดยสารข้างๆ

  • ขนส่งสาธารณะ: ซื้อตั๋วรถไฟ-รถบัส / ถามสายรถเมล์ / การเรียกรถแท็กซี่-Uber / บอกทางคนขับ / การเช่ารถและกฎจราจร

• 🏨 หมวดที่พัก (Accommodation)

  • เช็กอิน-เช็กเอาต์: การยืนยันจอง / ขอฝากกระเป๋า / ขอ Check-out เลท

  • การแจ้งปัญหา: แอร์ไม่เย็น / น้ำไม่ไหล / ห้องไม่สะอาด / ขอของใช้เพิ่ม (ผ้าเช็ดตัว, หมอน)

  • บริการ: จองสปา / จองรถรับส่ง / สอบถามสถานที่ท่องเที่ยวจาก Concierge

• 🍽️ หมวดอาหารการกิน (Dining & Gastronomy)

  • เข้าร้าน: การจองโต๊ะ / แจ้งจำนวนคน / ขอเก้าอี้เด็ก

  • สั่งอาหาร: อ่านเมนู / ถามเมนูแนะนำ / แจ้งแพ้อาหาร (สำคัญมาก) / สั่งระดับความสุก (Steak) / สั่งเครื่องดื่ม

  • ชำระเงิน: เรียกเช็กบิล / ถามว่ารับบัตรเครดิตไหม / การทิป (Tipping Etiquette) / แยกบิล (Split bill)

• 🛍️ หมวดชอปปิ้ง (Shopping)

  • เลือกซื้อ: ถามราคา / ขอลองไซส์ / ถามหาสีอื่น / ถามหาแผนกต่างๆ

  • การจ่ายเงิน: ต่อรองราคา (Bargaining) / การใช้คูปองส่วนลด / ขอทำ Tax Refund

  • บริการหลังการขาย: การเปลี่ยนหรือคืนสินค้า (Refund/Exchange) / แจ้งสินค้าชำรุด

• 🚑 หมวดเหตุฉุกเฉิน & สุขภาพ (Emergency & Health)

  • เจ็บป่วย: ซื้อยาที่ร้านขายยา (บอกอาการ) / ไปโรงพยาบาล / เรียกรถพยาบาล

  • อุบัติเหตุ: แจ้งความของหาย / แจ้งอุบัติเหตุรถชน / หลงทาง / ติดต่อสถานทูต

2. 💼 Business Mode (วัยทำงาน & ธุรกิจ)

เป้าหมาย: ดูเป็นมืออาชีพ สุภาพ ถูกกาลเทศะ สร้างความประทับใจ

• 🤝 หมวดเริ่มต้นงานใหม่ (Job & Onboarding)

  • หางาน: เขียน Resume/CV / เขียน Cover Letter / เทคนิคสัมภาษณ์งาน (Interview Prep)

  • เริ่มงาน: แนะนำตัวกับเพื่อนร่วมงาน (Self-Intro) / การถามระเบียบออฟฟิศ / การใช้อุปกรณ์สำนักงาน

• 📧 หมวดการสื่อสารด้วยข้อความ (Written Communication)

  • Email: อีเมลสมัครงาน / อีเมลนัดหมาย / อีเมลติดตามงาน (Follow-up) / อีเมลปฏิเสธอย่างสุภาพ / อีเมลลาป่วย-ลากิจ

  • Instant Messaging: การใช้ภาษาแชท (Slack/Teams) / การใช้ Emoji ในที่ทำงาน / ตัวย่อทางธุรกิจ (FYI, ASAP, EOD)

• 🗣️ หมวดการประชุม (Meetings)

  • การจัดการ: การนัดประชุม / การเขียน Agenda / การจดบันทึกการประชุม (Minutes)

  • ในห้องประชุม: การเปิดประชุม / การเสนอไอเดีย / การแย้งอย่างสุภาพ / การขอขยายความ / การสรุปจบ

• 📊 หมวดการนำเสนอ (Presentations)

  • โครงสร้าง: การเกริ่นนำ (Hook) / การลำดับเนื้อหา / การสรุปจบ

  • ข้อมูล: การอธิบายกราฟและตัวเลข / การใช้คำเชื่อม (Transition words)

  • Q&A: การตอบคำถามยากๆ / การจัดการกับคำถามที่ไม่รู้คำตอบ

• 💰 หมวดการเจรจาต่อรอง (Negotiation & Sales)

  • การขาย: การนำเสนอสินค้า (Pitching) / การรับมือข้อโต้แย้ง (Handling Objections) / การปิดการขาย

  • ต่อรอง: การต่อรองราคาและเงื่อนไข / การยื่นข้อเสนอ (Proposal) / การทำสัญญา (Contract terms)

• 🌐 หมวดเข้าสังคมธุรกิจ (Business Socializing)

  • Networking: Small Talk ในงานเลี้ยง / การแลกนามบัตร / หัวข้อที่ควรคุยและไม่ควรคุย

  • รับรองลูกค้า: การชวนไปทานข้าว / การดูแลเทคแคร์ลูกค้าต่างชาติ

3. 🍿 Lifestyle Mode (บันเทิง & ไลฟ์สไตล์)

เป้าหมาย: เข้าใจวัฒนธรรม ทันกระแส เข้าสังคมได้เนียนๆ

• 📱 หมวดโซเชียลมีเดีย (Social Media)

  • แพลตฟอร์ม: ศัพท์เฉพาะ Twitter/TikTok/IG / การเขียน Caption / การใช้ Hashtag

  • Interaction: การคอมเมนต์ให้ดูคูล / การตอบ DM / การรับมือดราม่า

  • Slang: ศัพท์สแลงวัยรุ่น (Gen Z Slang) / คำย่อ (LOL, IMO, TBH) / มีม (Memes) ที่ต้องรู้

• 🎬 หมวดสื่อบันเทิง (Entertainment)

  • หนัง/ซีรีส์: ดูโดยไม่ง้อซับ / ประโยคเด็ดจากหนังดัง / การวิจารณ์หนัง

  • เพลง: การแปลเนื้อเพลง / สำนวนในเพลงฮิต / ศัพท์แฟนคลับ (Fandom lingo)

  • เกม: ศัพท์ในเกม (Callouts, GG, Nerf, Buff) / การสื่อสารกับทีมเมท

• ❤️ หมวดความสัมพันธ์ (Relationships)

  • หาเพื่อน: การทักทายแบบกันเอง / การชวนไปเที่ยว / การถามสารทุกข์สุกดิบ

  • ความรัก: ประโยคจีบ (Flirting) / การชวนเดต / ศัพท์ใน Dating App / การบอกรัก / การบอกเลิก / การปรับความเข้าใจ

• 🎨 หมวดงานอดิเรก & ไลฟ์สไตล์ (Hobbies & Living)

  • ความงาม: ศัพท์เครื่องสำอาง (Skincare routine) / การแต่งหน้า / แฟชั่น

  • สุขภาพ: การออกกำลังกาย (Gym lingo) / โยคะ / อาหารคลีน

  • อาหาร: สูตรอาหาร (Recipes) / รสชาติ / การวิจารณ์อาหาร

4. 🎓 Academic Mode (วิชาการ & สอบ)

เป้าหมาย: คะแนนสอบสูง อ่านเร็ว เขียนเป๊ะ วิเคราะห์ได้

• 📚 หมวดคลังคำศัพท์ (Lexicon Builder)

  • รากศัพท์: Prefix, Suffix, Roots (เพื่อให้เดาความหมายศัพท์ยากๆ ได้)

  • Academic Word List (AWL): คำศัพท์ที่พบบ่อยในงานวิจัยและตำราเรียน

  • Synonyms/Antonyms: คำพ้องความหมายเพื่อเลี่ยงการใช้คำซ้ำ

  • Collocations: คำที่มักใช้คู่กัน (เช่น make a decision, do homework)

• 📖 หมวดการอ่าน (Reading Comprehension)

  • เทคนิค: Skimming (อ่านผ่านๆ หาเมนหลัก) / Scanning (กวาดสายตาหาข้อมูลเฉพาะ)

  • วิเคราะห์: การจับใจความสำคัญ (Main Idea) / การอนุมาน (Inference) / การแยกข้อเท็จจริงกับความคิดเห็น

  • ประเภทงานเขียน: ข่าว / บทความวิจัย / กราฟและแผนภูมิ

• ✍️ หมวดการเขียน (Academic Writing)

  • Structure: โครงสร้าง Essay (Intro, Body, Conclusion)

  • ประเภทงาน: Argumentative Essay / Graph Description (Task 1) / Research Paper

  • Grammar: Complex Sentence Structures / Passive Voice / Nominalization

  • Citations: การเขียนอ้างอิง (APA, MLA) / การเขียน Paraphrase เพื่อเลี่ยง Plagiarism

• 🗣️ หมวดการพูดและการฟัง (Speaking & Listening)

  • Lecture: การจดเลกเชอร์ (Note-taking) / การฟังจับประเด็น

  • Discussion: การอภิปรายในสัมมนา / การนำเสนองานหน้าชั้น / การตอบคำถามอาจารย์

• 📝 หมวดเตรียมสอบ (Test Prep)

  • Strategies: เทคนิคการตัดช้อยส์ / การบริหารเวลาสอบ

  • Specific Tests: เจาะลึก IELTS / TOEFL / TOEIC / JLPT / HSK

🌟 ภาพรวมประสบการณ์ (User Experience)

1. เริ่ม: จำศัพท์โดยมี AI คอยดูเรื่องการออกเสียง

2. ต่อ: เรียงประโยคโดยมี AI คอยอธิบายกฎเมื่อทำผิด

3. ดู: ดูตัวอย่างสถานการณ์ที่หลากหลายและถามข้อสงสัยกับ AI ได้

4. ลุย: คุยกับ AI ที่มีชีวิตชีวา และจบด้วยการแก้จุดบกพร่องทันที

_____________________________________________________

4 ขั้นตอน (Mission Flow) ของ LinguaVerse แบบกระชับครับ:

1. 🎒 เตรียมอาวุธ (Equip):

   • ทำอะไร: เรียนรู้คำศัพท์ที่จำเป็นผ่านรูปภาพและเสียง

   • เครื่องมือ: Flashcard Gallery

2. 🧩 วางโครงสร้าง (Build):

   • ทำอะไร: นำศัพท์มาฝึกเรียงเป็นประโยคตามสูตร (Pattern)

   • เครื่องมือ: Logic Blocks

3. 👀 ดูตัวอย่าง (Observe):

   • ทำอะไร: ดูและฟังบทสนทนาตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจจังหวะและบริบท

   • เครื่องมือ: Scenario Demo

4. 🎬 ลุยจริง & ซ่อม (Action & Fix):

   • ทำอะไร: สวมบทบาทคุยโต้ตอบกับ AI และแก้ไขจุดผิดทันทีหลังจบ

   • เครื่องมือ: Flow Chat (Roleplay) + Mission Debrief

_____________________________________________________

🗺️ The Ultimate Mission Flow (4 Steps + AI Integration)

1. ขั้นเตรียมอาวุธ (Equip: Vocabulary)

เป้าหมาย: รู้ศัพท์และออกเสียงได้ ก่อนไปเจอรูปประโยค

• Core Feature (พื้นฐาน):

  • Flashcard Gallery: แสดงการ์ดคำศัพท์ (รูปภาพ + เสียง + คำแปล + ตัวอย่างประโยค)

  • Test: มินิเกมทดสอบความจำ (เช่น จับคู่ภาพกับเสียง) เพื่อปลดล็อกด่านต่อไป

• 🤖 AI Optional (ส่วนเสริมอัจฉริยะ):

  • Personalized Deck: AI วิเคราะห์ความสนใจ User แล้วแทรกศัพท์เฉพาะตัวให้ (เช่น ถ้า User ชอบดื่มกาแฟ ในหมวดร้านอาหาร AI จะเพิ่มศัพท์ Latte, Oat milk เข้าไปให้เอง)

  • Smart Pronunciation Check: ถ้า User กดปุ่มฝึกพูดแล้วสำเนียงยังไม่ผ่าน AI จะวิเคราะห์ทันทีว่าผิดที่ลิ้นหรือริมฝีปาก แล้วเรียก Phonetic Mirror ขึ้นมาสอนเฉพาะคำนั้นแบบเจาะจง

2. ขั้นวางโครงสร้าง (Build: Sentence Structure)

เป้าหมาย: เข้าใจการเรียงคำ ไม่ใช่แค่ท่องจำ แต่เข้าใจตรรกะ

• Core Feature (พื้นฐาน):

  • Micro-Lesson: หน้าจอสอนสูตรสั้นๆ (Visual Pattern) ว่าประโยคนี้ประกอบด้วยอะไรบ้าง

  • Logic Blocks: เกมลากบล็อกสีมาต่อกันตามโจทย์ที่กำหนด

• 🤖 AI Optional (ส่วนเสริมอัจฉริยะ):

  • Contextual Explanation: ถ้า User ต่อบล็อกผิด AI จะไม่บอกแค่ว่า "ผิด" แต่อธิบายเหตุผลแบบเข้าใจง่าย (เช่น "ในภาษาญี่ปุ่น คำช่วย 'wo' ต้องอยู่หลังกรรมนะ ลองสลับดูไหม?")

  • Generative Examples: ถ้า User ยังไม่เข้าใจ AI จะสร้างประโยคตัวอย่างเพิ่มเติมที่ใช้โครงสร้างเดียวกันมาให้ดูอีก 3-4 ประโยค เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น

3. ขั้นดูตัวอย่าง (Observe: Scenario Demo)

เป้าหมาย: เห็นภาพรวมว่าศัพท์และประโยคจาก 2 ขั้นแรก ถูกใช้จริงอย่างไร

• Core Feature (พื้นฐาน):

  • Scenario Demo: ดู/ฟังบทสนทนาตัวอย่างระหว่าง A กับ B พร้อมคำแปล

  • Culture Pop-up: เกร็ดความรู้แทรก (เช่น มารยาทการโค้ง, การทิป)

• 🤖 AI Optional (ส่วนเสริมอัจฉริยะ):

  • Adaptive Dialogue: บทสนทนาตัวอย่างจะไม่ซ้ำซาก AI สามารถ Generate สถานการณ์ย่อยๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ได้ (เช่น ครั้งแรกพนักงานถามแบบ A ครั้งที่สองถามแบบ B) เพื่อให้ User คุ้นชินกับความหลากหลาย

  • "Why this?" Button: ปุ่มพิเศษที่ User กดถาม AI ได้ว่า "ทำไมประโยคนี้ถึงใช้คำนี้?" แล้ว AI จะอธิบายบริบททางวัฒนธรรมหรืออารมณ์ของประโยคนั้นให้

4. ขั้นลงสนามจริง & ซ่อมแซม (Action & Refine: Roleplay)

เป้าหมาย: ใช้จริง แก้ไข และทำให้สมบูรณ์ (จุดพีคของภารกิจ)

• Core Feature (พื้นฐาน):

  • Briefing: รับโจทย์ภารกิจ + ทวนบทพูด (Script Rehearsal)

  • Roleplay: คุยโต้ตอบกับคู่สนทนา

  • Report & Fix: สรุปผลและกดปุ่มซ่อมจุดผิด (Tone/Pronunciation) ทันที

• 🤖 AI Optional (ส่วนเสริมอัจฉริยะ):

  • Dynamic Persona: คู่สนทนา AI จะมีอารมณ์ร่วม (เช่น ถ้า User พูดห้วน AI อาจจะทำเสียงแข็งใส่ หรือถ้า User พูดดี AI จะยิ้มแย้ม)

  • Rescue Hints: ถ้าระหว่างคุย User นิ่งไปนาน (Dead air) AI จะส่ง "ห่วงยางช่วยชีวิต" (Hint Chips) ลอยขึ้นมาเป็นตัวเลือกคำตอบให้กดใช้ได้เลย

  • Deep Dive Feedback: ในหน้าสรุปผล AI จะวิเคราะห์ละเอียดไปถึง "ความมั่นใจ" (ดูจากความเร็วในการตอบ) และแนะนำวิธีพัฒนาบุคลิกภาพในการพูดด้วย

🍜 ตัวอย่าง 1: หมวดกินดื่ม (Dining)

ภารกิจ: สั่งราเมงและขอน้ำเปล่า

1. 🎒 Equip (เตรียมอาวุธ):

   • Flashcard: เรียนศัพท์เมนู (Tonkotsu Ramen, Gyoza, Water, Check bill)

   • AI Optional: ถ้า AI รู้ว่าเราแพ้กุ้ง จะเพิ่มศัพท์ "Shrimp Allergy" เข้ามาให้

2. 🧩 Build (วางโครงสร้าง):

   • Logic Blocks: ฝึกเรียงประโยค "ขอ [ราเมง] [1 ที่] ครับ" หรือ "ไม่ใส่ [ผักชี] นะครับ"

3. 👀 Observe (ดูตัวอย่าง):

   • Scenario Demo: ดูคลิปคนสั่งอาหารในร้านราเมงเสียงดังๆ (เพื่อให้ชินกับบรรยากาศร้าน)

   • Culture Pop-up: เกร็ดความรู้: "ที่ญี่ปุ่นไม่ต้องให้ทิปนะ" หรือ "ซดเสียงดังแปลว่าอร่อย"

4. 🎬 Action (ลุยจริง):

   • Briefing: ภารกิจคือ "สั่งราเมงและจ่ายเงิน"

   • Roleplay: คุยกับ AI (พนักงานร้าน) ที่อาจจะถามรัวๆ ว่า "เอาน้ำซุปเข้มข้นไหม? เอาเส้นนุ่มหรือแข็ง?" (ท้าทายกว่าตอนเรียน)

   • Fix: ถ้าสั่งผิดๆ ถูกๆ จบเกม AI จะบอกว่า "ลองพูดว่า Ka-e-da-ma (ขอเส้นเพิ่ม) ดูสิ เท่กว่านะ"

🚑 ตัวอย่าง 2: หมวดฉุกเฉิน (Emergency)

ภารกิจ: ไปร้านขายยา (บอกอาการปวดหัว)

1. 🎒 Equip (เตรียมอาวุธ):

   • Flashcard: ศัพท์อาการ (Headache, Fever, Stomachache, Painkiller)

   • Phonetic Mirror: เน้นคำว่า Stomach (ออกเสียงยาก: สตัม-เมิค)

2. 🧩 Build (วางโครงสร้าง):

   • Logic Blocks: สูตรประโยค [I have] + [อาการ] + [since yesterday]

3. 👀 Observe (ดูตัวอย่าง):

   • Scenario Demo: ฟังบทสนทนาระหว่างเภสัชกรกับคนไข้

4. 🎬 Action (ลุยจริง):

   • Briefing: ภารกิจคือ "ซื้อยาแก้ปวดหัวให้ได้"

   • Roleplay: AI (เภสัชกร) จะถามอาการแพ้ยา ถ้าตอบไม่ได้ AI จะไม่ยอมจ่ายยาให้ (สมจริง!)

🛍️ ตัวอย่าง 3: หมวดชอปปิ้ง (Shopping)

ภารกิจ: ต่อรองราคาของฝาก

1. 🎒 Equip (เตรียมอาวุธ):

   • Flashcard: ศัพท์ (Price, Discount, Expensive, Cheap)

   • Tone Tuner: (พิเศษ) ปรับประโยค "ลดหน่อย" ให้ดูน่ารักน่าเอ็นดู ไม่ใช่ดูหยาบคาย

2. 🧩 Build (วางโครงสร้าง):

   • Logic Blocks: สูตร [Can you] + [lower the price] + [?]

3. 👀 Observe (ดูตัวอย่าง):

   • Scenario Demo: ดูคลิปการต่อราคาในตลาดนัดกลางคืน

4. 🎬 Action (ลุยจริง):

   • Briefing: ภารกิจคือ "ต่อราคาเสื้อตัวนี้ให้เหลือ 200 บาท"

   • Roleplay: AI (แม่ค้า) จะใจแข็งตอนแรก ต้องตื้อหรือชมสินค้าก่อนถึงจะยอมลดให้

🟢 Phase 1: The Foundation (ปูรากฐาน)

เครื่องมือสำหรับสร้างความเข้าใจเบื้องต้นที่ถูกต้อง

1. Phonetic Mirror (กระจกเงาเสียง)

   • หน้าที่: ฝึกการออกเสียง (Articulation)

   • จุดเด่น: แสดงภาพจำลองอวัยวะภายในปากแบบ 3D เพื่อให้รู้วิธีวางลิ้นที่ถูกต้อง

2. Zen Calligraphy (คัดลายมือเซน)

   • หน้าที่: ฝึกการเขียนตัวอักษร (Handwriting)

   • จุดเด่น: เน้นลำดับขีดที่ถูกต้อง พร้อมเอฟเฟกต์น้ำหมึกที่ผ่อนคลาย (เหมาะกับภาษาจีน/ญี่ปุ่น)

3. Flashcard Gallery (แกลเลอรีศัพท์)

   • หน้าที่: จำคำศัพท์ (Vocabulary)

   • จุดเด่น: ใช้ภาพถ่ายจริงแนว Lifestyle สวยงาม และระบบ Parallax Tilt เพื่อความสมจริง

4. Logic Blocks (บล็อกตรรกะ)

   • หน้าที่: สร้างประโยค (Sentence Building)

   • จุดเด่น: เรียนรู้ไวยากรณ์ผ่านการลาก "บล็อกสี" มาต่อกัน (เช่น ประธาน+กริยา) แทนการท่องกฎ

🟡 Phase 2: Immersion (การซึมซับ)

เครื่องมือสำหรับรับสารและโต้ตอบในสถานการณ์จริง

5. Smart Streamer (สตรีมเมอร์อัจฉริยะ)

   • หน้าที่: ฝึกทักษะการฟัง (Listening)

   • จุดเด่น: ฟีเจอร์ "Hover-to-Slow" ชี้ที่ซับไตเติลเพื่อให้วิดีโอเล่นช้าลงทันที

6. Flow Chat (คู่หูแชท AI)

   • หน้าที่: ฝึกบทสนทนา (Conversation Roleplay)

   • จุดเด่น: จำลองแอปแชทที่มีระบบ "Hint Chips" ช่วยใบ้คำตอบ และโหมดเตรียมตัวก่อนคุย

7. Voice Sync (ซิงค์เสียง)

   • หน้าที่: ฝึกจังหวะการพูด (Shadowing/Intonation)

   • จุดเด่น: กราฟเสียงของผู้เรียนต้องทับซ้อนกับต้นฉบับให้สนิทเหมือนร้องคาราโอเกะ

8. Grammar Lens (เลนส์ไวยากรณ์)

   • หน้าที่: อ่านจับใจความและวิเคราะห์ (Reading Analysis)

   • จุดเด่น: ระบบ X-Ray ที่แยกส่วนประกอบของประโยคยาวๆ ให้เห็นโครงสร้างชัดเจน

🔴 Phase 3: Advanced Polish (ขัดเกลาขั้นสูง)

เครื่องมือสำหรับเก็บรายละเอียดและความเป็นมืออาชีพ

9. Tone Tuner (ตัวปรับระดับภาษา)

   • หน้าที่: เรียนรู้ระดับความสุภาพ (Register/Tone)

   • จุดเด่น: สไลเดอร์ปรับเปลี่ยนประโยคจาก "กันเอง" เป็น "ทางการ" แบบ Real-time

10. Precision Audio (เจาะลึกเสียง)

    • หน้าที่: แก้ไขข้อผิดพลาด (Correction)

    • จุดเด่น: แสดง Heatmap สีแดงบนตัวอักษรที่ออกเสียงผิด เพื่อให้แก้ได้ตรงจุด

11. Social Trends (เกาะติดเทรนด์)

    • หน้าที่: เรียนรู้ภาษาปัจจุบัน (Slang & Culture)

    • จุดเด่น: นำเสนอศัพท์ผ่านฟีดโซเชียลมีเดียจำลอง (Meme/TikTok style)

12. Workspace Sim (จำลองทำงาน)

    • หน้าที่: ฝึกภาษาธุรกิจ (Business English)

    • จุดเด่น: จำลองหน้าจอคอมพิวเตอร์จริง ให้ทำภารกิจตอบอีเมลหรือแชทงานภายใต้เวลาจำกัด

🔵 Phase 4: The Core Engine (แกนหลัก)

ระบบเบื้องหลังที่เชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน

13. Memory Battery (แบตเตอรี่ความจำ)

    • หน้าที่: ระบบช่วยจำ SRS (Spaced Repetition System)

    • จุดเด่น: แสดงความจำของคำศัพท์เป็นระดับแบตเตอรี่ที่ต้องคอยกลับมา "ชาร์จ" (ทบทวน)

14. Wellness Rings (วงแหวนสุขภาวะ)

    • หน้าที่: แดชบอร์ดติดตามผล (Progress Tracker)

    • จุดเด่น: เปลี่ยนเป้าหมายการเรียนเป็นวงแหวนกิจกรรม 3 วงที่ต้องทำให้เต็มทุกวัน (ลดความกดดันจากตัวเลข)

15. Magic Reader (ผู้อ่านมหัศจรรย์)

    • หน้าที่: เครื่องมือเสริมการอ่านนอกสถานที่ (Browser Extension)

    • จุดเด่น: ปุ่มลอยที่เปลี่ยนหน้าเว็บข่าวทั่วไปให้กลายเป็นบทเรียนพร้อมคำแปลทันที

👩‍🏫 กลุ่มที่ 1: ผู้ช่วยครู (Teacher's Co-Pilot)

เน้นช่วยลดภาระงานเอกสารและการเตรียมสอน

1. 📝 Lesson Planner: ช่วยเขียนแผนการสอน (ที่เราเพิ่งทำ UI ไป)

2. 📚 Content Writer: ช่วยร่างเนื้อหาบทเรียน หรือสรุปย่อ

3. 🧪 Quiz Generator: ช่วยออกข้อสอบ และสร้างแบบฝึกหัด

4. 🎨 Visualizer: ช่วยหาหรือสร้างภาพประกอบสื่อการสอน

5. 🛡️ Integrity Check: ช่วยตรวจสอบการคัดลอกผลงานหรือการใช้ AI เขียน ❌

_______________________________________________

🎓 กลุ่มที่ 2: เพื่อนคู่คิดนักเรียน (Learner's Hub)

เน้นการเรียนรู้ส่วนบุคคลและการดูแลจิตใจ 

6. 🧠 Socratic Tutor: ติวเตอร์ส่วนตัวที่เน้นสอนด้วยการตั้งคำถาม ❌

7. 🗣️ Language Buddy: คู่ซ้อมฝึกภาษา (Role-play) 1️⃣

8. ⚔️ Exam Practice: สนามซ้อมสอบเสมือนจริง 

9. 🧭 Career Analytics: วิเคราะห์เกรดและแนะนำเส้นทางอาชีพ ❌

10. ❤️ Well-being Check: เพื่อนเช็คอารมณ์และให้กำลังใจ ❌

_______________________________________________

Interesting Agent

• Office Agent

1. 🧭 TopicAI (นักสำรวจไอเดีย): 

• ช่วยคิดหัวข้อวิจัย, หาช่องว่าง (Gap Analysis), และเจาะลึกหัวข้อ (Deep Dive)

2. 🎓 ScholarAI (นักเขียนเปเปอร์): 

• ผู้ช่วยเขียนเปเปอร์ฉบับเต็ม ตั้งแต่ตั้งคำถามวิจัย (RQ) ไปจนถึงเขียนเนื้อหา (Full Paper Gen)

3. 🎨 StudioAI (บรรณาธิการ): 

• ปรับปรุงเนื้อหา (Improve, Paraphrase, Expand, Summarize, Grammar, Custom) และหาอ้างอิง (Cite)

4. 🎯 JournalAI (ผู้แนะนำวารสาร): 

• แนะนำวารสารที่เหมาะสมกับบทคัดย่อ (Abstract) โดยอิงจากฐานข้อมูลจริง

5. 🔬 ReviewerAI (ผู้ตรวจสอบ): 

• จำลองการตรวจเปเปอร์ (Peer Review) ประเมินจุดแข็ง/จุดอ่อน

6. ✍️ ResponseAI (ผู้ช่วยตอบกลับ): 

• ร่างจดหมายตอบกลับ Reviewer (Response Letter) และวางแผนแก้ไขงาน

7. 📄 TemplateAI (ช่างเทคนิค LaTeX): 

• แปลงไฟล์ (Importer) และจัดรูปแบบลง Template LaTeX (Formatter)